หากต้องการดูบทความนี้แบบเต็มหน้าจอ กรุณาคลิกที่ ลิงก์นี้
การจัดการพอร์ตโฟลิโอ |
การจัดการพอร์ตโฟลิโอ คือวิธีในการเลือกและติดตามการลงทุนที่ตรงกับเป้าหมายการเงินระยะยาวในขณะที่เพิ่มการทำกำไรและลดความเสี่ยง ในการเดินทางนี้คุณต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดและตัวเลือกการลงทุนต่าง ๆ และสามารถตัดสินใจอย่างฉลาดโดยอิงตามการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน
|
|
คุณสามารถจัดการพอร์ตโฟลิโอที่ดีได้ด้วยการทำความเข้าใจประเด็นหลัก 3 ประการดังนี้:
|
การจัดการเงิน |
เมื่ออุปสงค์และอุปทานในตลาดหุ้นเท่ากัน การตัดสินใจเกี่ยวกับแนวโน้มราคาที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องยากเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เป็นเรื่องปกติที่จะขาดทุนจากการเทรด เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะทำกำไรจากทุกการเทรด ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักในการซื้อขายคือการลดการสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ นักเทรดสามารถใช้กฎการบริหารความเสี่ยงที่เรียบง่ายและเชื่อถือได้ดังต่อไปนี้
|
1️⃣ The Martingale System |
หากการซื้อขายไม่ประสบผลสำเร็จ คุณสามารถเพิ่มจำนวนการซื้อขายครั้งถัดไปเพื่อชดเชยการขาดทุนของคุณได้ หลังจากการเทรดที่ประสบความสำเร็จ คุณควรกลับไปที่จำนวนการเทรดเดิมและเริ่มต้นใหม่ โดยปกติวิธี Martingale จะเกี่ยวข้องกับสี่ถึงเจ็ดขั้นตอน หากคุณไปถึงขั้นตอนที่เจ็ดแต่ยังเป็นการเทรดที่ขาดทุน ขอแนะนำให้คุณหยุดการซื้อขายในวันนั้น |
2️⃣ The Parlay System |
หากคุณมีการซื้อขายที่ทำกำไรให้เพิ่มปริมาณการซื้อขายครั้งต่อไปของคุณ แต่หากคุณประสบกับความสูญเสีย ให้กลับไปที่จำนวนการซื้อขายเดิมและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เมื่อใช้ระบบพาร์เลย์ สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดขีดจำกัดสำหรับตัวคุณเองและกำหนดจำนวนครั้งสูงสุดที่คุณสามารถเพิ่มมูลค่าการซื้อขายเป็นสองเท่า ขีดจำกัดนี้ควรขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
โปรดจำไว้ว่ายิ่งคุณเพิ่มปริมาณการซื้อขายเป็นสองเท่ามากเท่าใด ความเสี่ยงที่จะจบลงด้วยการขาดทุนมากกว่ากำไรก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่มปริมาณการซื้อขายเป็นสองเท่ามากกว่า 4 ครั้งติดต่อกัน |
3️⃣ The Fixed Sum Method |
เมื่อทำการซื้อขาย สิ่งสำคัญคือต้องจัดการความเสี่ยงโดยกำหนดเปอร์เซ็นต์ของเงินฝากที่คุณยินดีใช้สำหรับการซื้อขายแต่ละครั้ง โดยปกติจำนวนเงินนี้จะอยู่ระหว่าง 0.5% ถึง 6% ขอแนะนำให้กำหนดไม่เกิน 5-6% สำหรับตำแหน่งที่เปิดอยู่
ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อขายด้วยเงินฝาก 1% ทางที่ดีที่สุดคืออย่าเปิดการซื้อขายมากกว่า 6 รายการในเวลาเดียวกัน หากคุณเพิ่งเริ่มการซื้อขาย ขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่า เช่น 0.5-1% ของจำนวนเงินฝากของคุณ สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ คุณอาจพิจารณาใช้เงินฝาก 2-6% สำหรับการซื้อขายแต่ละครั้ง
|
การจัดการความเสี่ยง |
ระบบการจัดการความเสี่ยงเป็นระบบอัตโนมัติบนแพลตฟอร์มที่ทำงานโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงด้วยตนเอง ระบบนี้ตรวจจับการเทรดที่มีความเสี่ยงสูงหรือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ และกำหนดข้อจำกัดเพื่อปกป้องเงินทุนของเทรดเดอร์
📐 ข้อจำกัดการเทรด |
ข้อจำกัดการเทรดคือการกำหนดวงเงินสำหรับการเทรด ซึ่งอาจเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายชั่วโมง เพื่อปกป้องเงินทุนของเทรดเดอร์ หากระบบตรวจพบการเทรดที่มีความเสี่ยงสูงในบัญชีของคุณ
ข้อจำกัดรายวันจะอัปเดตทุกวันเวลา 21:00 UTC
สภาวะตลาด เมื่อสภาวะตลาดมีความผันผวน อาจทำให้ผู้ให้บริการสภาพคล่องรักษาสถานการณ์ได้ยาก ดังนั้นระบบจะช่วยจำกัดจำนวนเงินลงทุนที่เทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อเปิดตำแหน่ง |
ปแบบการเทรดที่มีความเสี่ยง ใช้เงินลงทุนเกิน 10% ของยอดเงินรวมในบัญชี เช่น เทรดด้วยเงินมากกว่า $10 หากยอดเงินคงเหลือของคุณคือ $100 กำหนดระยะเวลาการเทรดน้อยกว่า 10 นาที |
ประเภทของข้อจำกัด
|
การจัดการข้อจำกัด ระบบการจัดการความเสี่ยงของเราจะปรับข้อจำกัดโดยอัตโนมัติตามรูปแบบการเทรดของคุณ หากคุณมีข้อจำกัดและต้องการยกเลิกหรือปรับลดลงเร็วขึ้น เราขอแนะนำให้: เปิดการเทรดไม่เกิน 10% ของยอดเงินคงเหลือทั้งหมดของคุณต่อการเทรดหนึ่งครั้งตั้งระยะเวลาการเทรดอย่างน้อย 10 นาที เพื่อลดความเสี่ยง
|
🔧 เครื่องมือการเทรด |
🎯 Stop Loss/Take Profit |
ใช้ฟีเจอร์อัตโนมัติ "Take Profit" และ "Stop Loss" เพื่อควบคุมการเทรด Forex ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
|
⛔ Stop out |
เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยปิดการเทรดที่ขาดทุนโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันยอดเงินในบัญชีไม่ให้ติดลบ ระดับ Stop Out แสดงจำนวนเงินลงทุนที่ไม่ควรขาดทุนเกินกว่ากำหนด เพื่อให้การเทรดยังคงเปิดอยู่และไม่ถูกปิดโดยอัตโนมัติ |
🛡️ Flat Market Protection |
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณได้รับเงินลงทุนคืนหากราคาซื้อขายเปิดและปิดของดีล FTT หรือ Flex แตกต่างกันเพียง 1 ติ๊ก เนื่องจากในกรณีนี้ ผลลัพธ์ของการเทรดจะถือว่าเป็นโมฆะ |
การจัดการตนเองและจิตวิทยาการเทรด |
พฤติกรรมของเทรดเดอร์สะท้อนถึงสภาพจิตใจของพวกเขา และอารมณ์เช่น ความวิตกกังวล, ความกลัว และความโลภ สามารถมีผลกระทบต่อการตัดสินใจ การควบคุมอารมณ์ที่เป็นอันตรายเป็นสิ่งสำคัญ จิตวิทยาการเทรดที่แข็งแกร่งจะช่วยลดอิทธิพลจากอารมณ์ ทัศนคติในเชิงบวกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ขณะที่ความโลภอาจทำให้เทรดเดอร์อยู่ในตำแหน่งนานเกินไป และความกลัวอาจทำให้พวกเขาตัดขาดทุนเร็วเกินไปหรือหลีกเลี่ยงโอกาสที่เสี่ยง |
เคล็ดลับในการพัฒนาจิตวิทยาการเทรดที่ดีขึ้น |
การควบคุมจิตวิทยาการเทรดสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้:
|
หากบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมกด 👍 ให้เราด้วยนะ