Company logoHelp Center
HomeFAQ ไทยการจัดการพอร์ตโฟลิโอ - ทั้งหมดที่คุณต้องรู้

การจัดการพอร์ตโฟลิโอ - ทั้งหมดที่คุณต้องรู้

1 min. readlast update: 11.21.2024

 หากต้องการดูบทความนี้แบบเต็มหน้าจอ กรุณาคลิกที่ ลิงก์นี้

การจัดการพอร์ตโฟลิโอ

การจัดการพอร์ตโฟลิโอ คือวิธีในการเลือกและติดตามการลงทุนที่ตรงกับเป้าหมายการเงินระยะยาวในขณะที่เพิ่มการทำกำไรและลดความเสี่ยง ในการเดินทางนี้คุณต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดและตัวเลือกการลงทุนต่าง ๆ และสามารถตัดสินใจอย่างฉลาดโดยอิงตามการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน

 

 

คุณสามารถจัดการพอร์ตโฟลิโอที่ดีได้ด้วยการทำความเข้าใจประเด็นหลัก 3 ประการดังนี้:

  • การจัดการเงิน
  • การบริหารความเสี่ยง
  • การจัดการตนเอง

 

การจัดการเงิน

เมื่ออุปสงค์และอุปทานในตลาดหุ้นเท่ากัน การตัดสินใจเกี่ยวกับแนวโน้มราคาที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องยากเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เป็นเรื่องปกติที่จะขาดทุนจากการเทรด เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะทำกำไรจากทุกการเทรด ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักในการซื้อขายคือการลดการสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ นักเทรดสามารถใช้กฎการบริหารความเสี่ยงที่เรียบง่ายและเชื่อถือได้ดังต่อไปนี้

 

1️⃣ The Martingale System

หากการซื้อขายไม่ประสบผลสำเร็จ คุณสามารถเพิ่มจำนวนการซื้อขายครั้งถัดไปเพื่อชดเชยการขาดทุนของคุณได้ หลังจากการเทรดที่ประสบความสำเร็จ คุณควรกลับไปที่จำนวนการเทรดเดิมและเริ่มต้นใหม่ โดยปกติวิธี Martingale จะเกี่ยวข้องกับสี่ถึงเจ็ดขั้นตอน หากคุณไปถึงขั้นตอนที่เจ็ดแต่ยังเป็นการเทรดที่ขาดทุน ขอแนะนำให้คุณหยุดการซื้อขายในวันนั้น

2️⃣ The Parlay System

หากคุณมีการซื้อขายที่ทำกำไรให้เพิ่มปริมาณการซื้อขายครั้งต่อไปของคุณ แต่หากคุณประสบกับความสูญเสีย ให้กลับไปที่จำนวนการซื้อขายเดิมและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เมื่อใช้ระบบพาร์เลย์ สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดขีดจำกัดสำหรับตัวคุณเองและกำหนดจำนวนครั้งสูงสุดที่คุณสามารถเพิ่มมูลค่าการซื้อขายเป็นสองเท่า ขีดจำกัดนี้ควรขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ

 

โปรดจำไว้ว่ายิ่งคุณเพิ่มปริมาณการซื้อขายเป็นสองเท่ามากเท่าใด ความเสี่ยงที่จะจบลงด้วยการขาดทุนมากกว่ากำไรก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่มปริมาณการซื้อขายเป็นสองเท่ามากกว่า 4 ครั้งติดต่อกัน

3️⃣ The Fixed Sum Method

เมื่อทำการซื้อขาย สิ่งสำคัญคือต้องจัดการความเสี่ยงโดยกำหนดเปอร์เซ็นต์ของเงินฝากที่คุณยินดีใช้สำหรับการซื้อขายแต่ละครั้ง โดยปกติจำนวนเงินนี้จะอยู่ระหว่าง 0.5% ถึง 6% ขอแนะนำให้กำหนดไม่เกิน 5-6% สำหรับตำแหน่งที่เปิดอยู่
 
ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อขายด้วยเงินฝาก 1% ทางที่ดีที่สุดคืออย่าเปิดการซื้อขายมากกว่า 6 รายการในเวลาเดียวกัน หากคุณเพิ่งเริ่มการซื้อขาย ขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่า เช่น 0.5-1% ของจำนวนเงินฝากของคุณ สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ คุณอาจพิจารณาใช้เงินฝาก 2-6% สำหรับการซื้อขายแต่ละครั้ง
 
 

การจัดการความเสี่ยง

ระบบการจัดการความเสี่ยงเป็นระบบอัตโนมัติบนแพลตฟอร์มที่ทำงานโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงด้วยตนเอง ระบบนี้ตรวจจับการเทรดที่มีความเสี่ยงสูงหรือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ และกำหนดข้อจำกัดเพื่อปกป้องเงินทุนของเทรดเดอร์

📐 ข้อจำกัดการเทรด
 

ข้อจำกัดการเทรดคือการกำหนดวงเงินสำหรับการเทรด ซึ่งอาจเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายชั่วโมง เพื่อปกป้องเงินทุนของเทรดเดอร์ หากระบบตรวจพบการเทรดที่มีความเสี่ยงสูงในบัญชีของคุณ

ข้อจำกัดรายวันจะอัปเดตทุกวันเวลา 21:00 UTC

สภาวะตลาด

เมื่อสภาวะตลาดมีความผันผวน อาจทำให้ผู้ให้บริการสภาพคล่องรักษาสถานการณ์ได้ยาก ดังนั้นระบบจะช่วยจำกัดจำนวนเงินลงทุนที่เทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อเปิดตำแหน่ง

ปแบบการเทรดที่มีความเสี่ยง

ใช้เงินลงทุนเกิน 10% ของยอดเงินรวมในบัญชี เช่น เทรดด้วยเงินมากกว่า $10 หากยอดเงินคงเหลือของคุณคือ $100

กำหนดระยะเวลาการเทรดน้อยกว่า 10 นาที

 

ประเภทของข้อจำกัด

  • ปริมาณ: ข้อจำกัดที่ควบคุมจำนวนเงินรวมที่คุณสามารถลงทุนในสินทรัพย์หรือกลุ่มสินทรัพย์ใดๆ
  • จำนวนการเทรดที่เปิดอยู่: ข้อจำกัดจำนวนการเทรดที่คุณสามารถเปิดได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน
  • ข้อจำกัดตำแหน่งที่เปิดอยู่: ข้อจำกัดนี้เปลี่ยนแปลงตามปริมาณของการเทรดที่เปิดอยู่ในปัจจุบัน และไม่มีวันหมดอายุ

การจัดการข้อจำกัด

ระบบการจัดการความเสี่ยงของเราจะปรับข้อจำกัดโดยอัตโนมัติตามรูปแบบการเทรดของคุณ

หากคุณมีข้อจำกัดและต้องการยกเลิกหรือปรับลดลงเร็วขึ้น เราขอแนะนำให้:

เปิดการเทรดไม่เกิน 10% ของยอดเงินคงเหลือทั้งหมดของคุณต่อการเทรดหนึ่งครั้งตั้งระยะเวลาการเทรดอย่างน้อย 10 นาที เพื่อลดความเสี่ยง

 

🔧 เครื่องมือการเทรด

🎯 Stop Loss/Take Profit

ใช้ฟีเจอร์อัตโนมัติ "Take Profit" และ "Stop Loss" เพื่อควบคุมการเทรด Forex ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยปกป้องเงินลงทุนของคุณและสนับสนุนให้คุณทำตามแผนการเทรดได้สำเร็จ

⛔ Stop out

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยปิดการเทรดที่ขาดทุนโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันยอดเงินในบัญชีไม่ให้ติดลบ

ระดับ Stop Out แสดงจำนวนเงินลงทุนที่ไม่ควรขาดทุนเกินกว่ากำหนด เพื่อให้การเทรดยังคงเปิดอยู่และไม่ถูกปิดโดยอัตโนมัติ

🛡️ Flat Market Protection

ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณได้รับเงินลงทุนคืนหากราคาซื้อขายเปิดและปิดของดีล FTT หรือ Flex แตกต่างกันเพียง 1 ติ๊ก
เนื่องจากในกรณีนี้ ผลลัพธ์ของการเทรดจะถือว่าเป็นโมฆะ

การจัดการตนเองและจิตวิทยาการเทรด

พฤติกรรมของเทรดเดอร์สะท้อนถึงสภาพจิตใจของพวกเขา และอารมณ์เช่น ความวิตกกังวล, ความกลัว และความโลภ สามารถมีผลกระทบต่อการตัดสินใจ การควบคุมอารมณ์ที่เป็นอันตรายเป็นสิ่งสำคัญ

จิตวิทยาการเทรดที่แข็งแกร่งจะช่วยลดอิทธิพลจากอารมณ์ ทัศนคติในเชิงบวกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ขณะที่ความโลภอาจทำให้เทรดเดอร์อยู่ในตำแหน่งนานเกินไป และความกลัวอาจทำให้พวกเขาตัดขาดทุนเร็วเกินไปหรือหลีกเลี่ยงโอกาสที่เสี่ยง


เคล็ดลับในการพัฒนาจิตวิทยาการเทรดที่ดีขึ้น

 

การควบคุมจิตวิทยาการเทรดสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้:

  1. ฝึกการระบุตลาดและแนวโน้มอย่างสม่ำเสมอ
  2. สร้างแผนการเทรดที่ชัดเจนด้วยจุดเข้าและจุดออก, เป้าหมายกำไร และช่วงเวลาในการเทรด
  3. ลดความเสี่ยงโดยการใช้ฟีเจอร์ Take Profit และ Stop Loss
  4. รอผลลัพธ์อย่างอดทนและหลีกเลี่ยงการเทรดด้วยเงินยืมหรือเงินที่ไม่สามารถใช้จ่ายได้
 

หากบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมกด 👍 ให้เราด้วยนะ     

Was this article helpful?
Powered by